ทำไม “พื้น MFB” ถึงแข็งแรงที่สุด?

ในยุคที่การรีโนเวทบ้านกำลังมาแรง เจ้าของบ้านและผู้รับเหมาต่างเริ่มมองหาวัสดุปูพื้นที่ ทนทาน แข็งแรง ไม่พอง ไม่บวม และอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้คำถามยอดฮิตบน Google คือ

• พื้น MFB คืออะไร
• MFB ดีไหม
  

พื้นแบบไหนแข็งแรงที่สุดระหว่าง MFB, SPC, ลามิเนต

วันนี้เราจะพาเจาะลึกว่า ทำไม “พื้น MFB” ถึงได้รับการยอมรับว่าแข็งแรงที่สุดในกลุ่มพื้นลายไม้ยุคใหม่ และทำไมควรเป็นตัวเลือกแรกสำหรับบ้าน/คอนโดที่ต้องการทั้งความสวยงามและความทนทานสูงสุด

 พื้น MFB คืออะไร? ทำไมถึงมาแรงในปีนี้

MFB (Mineral Fiber Board หรือ Hybrid Ultra Fiber Board) คือวัสดุปูพื้นรุ่นใหม่ที่ผสานเทคโนโลยีไฟเบอร์เกรดพิเศษเข้ากับแร่ธรรมชาติ ทำให้เกิด แกนกลางเนื้อแน่นเป็นพิเศษ ทนแรงกระแทกสูง และไม่ดูดซึมน้ำ

คุณสมบัติเด่นของพื้น MFB คือ

•  แกนแน่นสุดระดับ Hybrid Ultra Fiber
• ไม่พอง ไม่บวม แม้เจอน้ำ
• ทนแรงกระแทกมากกว่าพื้นทั่วไป
• ทนรอยขีดข่วนสูง
• รับน้ำหนักได้ดีเยี่ยม
• อุณหภูมิคงที่ ไม่โก่งตัวง่าย

จุดเด่นเหล่านี้ทำให้ MFB กลายเป็น “วัสดุปูพื้นแห่งอนาคต” ที่หลายประเทศเริ่มใช้แทนลามิเนตและ SPC

ทำไมพื้น MFB ถึงแข็งแรงที่สุด?

1) โครงสร้าง Hybrid Ultra Fiber ความหนาแน่นสูง
แกนกลางของ MFB ผลิตจากไฟเบอร์ชนิดพิเศษอัดแน่นเหนือมาตรฐานทั่วไป เมื่อเทียบกับวัสดุปูพื้นอื่น

ลามิเนต = แกนไม้ HDF
SPC = PVC + ผงหิน
MFB = Fiber + Mineral Hybrid ✨


ทำให้ ทนแรงกระแทกได้ดีกว่า 2–3 เท่า ไม่แตก ไม่ร้าว และไม่บุบง่าย

นี่คือเหตุผลที่ผู้รับเหมามักรีวิวว่า

“พื้น MFB ทำงานง่าย และลูกค้าบอกว่ารู้สึกถึงความแข็งแรงตั้งแต่วันแรกที่เดิน”


2) ไม่พอง ไม่บวม แม้โดนน้ำ – แข็งแรงมากกว่า HDF หลายเท่า
พื้นลามิเนตเป็นวัสดุที่ “เสี่ยงพองบวม” เมื่อโดนน้ำ เพราะแกน HDF ดูดซึมน้ำได้

แต่พื้น MFB ไม่มีปัญหานี้ เพราะ

• ไม่มีเนื้อไม้
• ไม่ดูดน้ำ
• โครงสร้างไม่เสื่อมสภาพเมื่อโดนความชื้น
• จึงเหมาะมากสำหรับ
• บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
• ห้องครัว
• บ้านใกล้ทะเล
• คอนโดชั้นสูงที่มีความชื้นเฉพาะจุด

ผลลัพธ์คือ แข็งแรง ยืดหยุ่น และอายุการใช้งานยาวกว่า


3) ทนรอยขีดข่วน – เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือเฟอร์นิเจอร์หนัก
ผิวหน้าของพื้น MFB เคลือบ UV Coating + Wear Layer หนาพิเศษ

จึงทนต่อ เล็บสัตว์เลี้ยง เก้าอี้ลาก เฟอร์นิเจอร์เคลื่อนย้าย ของตกหล่น
ช่วยให้พื้นดูใหม่ ยาวถึง 10–15 ปี แบบแทบไม่ต้องซ่อม


4) รับแรงกดและแรงกระแทกได้มากกว่า SPC
พื้น SPC แม้จะกันน้ำดี แต่มีจุดอ่อนคือ ความหนาน้อย แข็งกระด้าง

"พื้น MFB ให้ความรู้สึก แน่น มั่นคง เดินแล้วรู้สึกนุ่มกว่า SPC ไม่แตกจากแรงกระแทก"

เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ


5) ไม่หด–ไม่ขยาย ไม่โก่งตัว
ความเสถียรของ MFB ทำให้

• ไม่ยืด ไม่หด
• ไม่โก่งเวลาโดนแดด
• ไม่มีปัญหาพื้นยก
• ใช้ได้ทั้งห้องแอร์และห้องที่อุณหภูมิเปลี่ยนตลอดวัน
• เรียกว่าเป็นพื้นที่ ตอบโจทย์สภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยที่สุด

เปรียบเทียบ MFB SPC ลามิเนต

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น สรุปเปรียบเทียบแบบเข้าใจง่าย

1) ความแข็งแรง

• MFB — แข็งแรงที่สุด
• SPC — ทนแต่เปราะ แตกง่าย
• ลามิเนต — ขึ้นกับคุณภาพ HDF

2) กันน้ำ

• MFB — ไม่ดูดน้ำ ไม่บวม
• SPC — กันน้ำ 100%
• ลามิเนต — พองเมื่อโดนน้ำ

3) เสียงเวลาเดิน

• MFB — เสียงเงียบ แน่น
• SPC — แข็ง และเสียงดัง “แป๊ะๆ”
• ลามิเนต — กลางๆ

4) ความทนทานต่อรอยขีดข่วน

• MFB — ดีที่สุด (Wear Layer หนา)
• SPC — ดี
• ลามิเนต — ปานกลาง

5) อายุการใช้งาน

• MFB — 12–15 ปี
• SPC — 8–10 ปี
• ลามิเนต — 5–8 ปี

จึงไม่แปลกที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้างจะบอกว่า

“ถ้าเลือกพื้นเพื่อการใช้งานยาว ๆ MFB คือตัวเลือกที่คุ้มที่สุด”


สรุป: MFB ดีไหม? คำตอบคือ “ดีที่สุดสำหรับบ้านยุคใหม่”
หลังเปรียบเทียบแบบละเอียดแล้ว จะเห็นว่า MFB คือวัสดุปูพื้นที่

• แข็งแรงที่สุด
• เสถียรที่สุด
• ใช้งานได้หลากหลายกว่า
• กันน้ำ กันชื้น กันปลวก
• ทนรอย ทนแรงกระแทก
• สวยเหมือนพื้นไม้จริงมากที่สุด

เหมาะกับ บ้านใหม่ ออฟฟิศ รีโนเวทบ้าน บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง บ้านที่มีเด็ก/ผู้สูงอายุ

ถ้าคุณกำลังมองหาพื้นที่สวย ทน คุ้มค่า ใช้ยาว 10–15 ปี

MFB คือคำตอบอันดับ 1 ในปีนี้


สนใจติดตั้งพื้น MFB คุณภาพระดับพรีเมียม

ติดต่อ DR.FLOOR
ทีมช่างมืออาชีพ พื้น MFB เกรดพรีเมียม รับประกันการติดตั้ง

ให้คำปรึกษาฟรี

DR.Floor – ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพื้นบ้านไทย

Line: @dr.floor