28 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัญหาที่เจ้าของบ้านมักเจอ
หลายคนที่กำลังจะรีโนเวทบ้านหรือเลือกวัสดุปูพื้นใหม่ คงสับสนว่าจะเลือกพื้นไม้ Hybrid, พื้น SPC หรือพื้นลามิเนตดี เพราะแต่ละชนิดต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันไป ถ้าเลือกผิดอาจทำให้ต้องเสียเงินซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ภายในไม่กี่ปี คำถามคือ “พื้นแบบไหนคุ้มที่สุดและเหมาะกับการใช้งานจริงในเมืองไทย?”
พื้นไม้ Hybrid Ultra Fiber Board หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า พื้น Hybrid เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานความแข็งแรงของเส้นใยแร่ธรรมชาติกับเทคโนโลยีสังเคราะห์ ทำให้มีทั้งความสวยเหมือนไม้จริง และความทนทานต่อน้ำ ความร้อน และแรงกดทับ
- กันน้ำ 100%
- ทนร้อนและไม่หดตัว
- เดินสบาย เสียงไม่ดัง
- ดีไซน์เหมือนไม้จริง
SPC (Stone Plastic Composite) คือวัสดุที่ทำจากหินปูนผสมพลาสติก
- กันน้ำได้ 100%
- แข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วน
- ราคาปานกลาง
แต่ข้อเสียคือ แข็ง เดินแล้วไม่สบายเท้า และเก็บเสียงได้ไม่ดี
พื้นไม้ลามิเนตคือไม้สังเคราะห์ที่มีชั้นฟิล์มลายไม้ด้านบน
- ราคาถูก ติดตั้งง่าย
- ดีไซน์หลากหลาย
แต่ไม่ทนน้ำ บวมง่ายเมื่อโดนชื้น และเสียงดังเวลาเดิน
พื้น Hybrid (DR.FLOOR): ลูกค้าบอกว่าเดินสบาย บ้านดูหรูหรา และไม่กังวลน้ำหกหรือแดดแรง
- พื้น SPC: ใช้งานได้ดีในห้องครัวและพื้นที่ที่โดนน้ำ แต่เดินแล้วแข็ง
- พื้นลามิเนต: สวยราคาถูก แต่เปลี่ยนบ่อย เพราะบวมและเสียงดัง
ถ้าต้องการความคุ้มค่าระยะยาวและใช้งานจริงในสภาพอากาศเมืองไทย → เลือกพื้น Hybrid
- ถ้าต้องการกันน้ำอย่างเดียว ราคาปานกลาง → เลือกพื้น SPC
- ถ้าต้องการราคาถูก ใช้ชั่วคราว → เลือกพื้นลามิเนต
Q: พื้น Hybrid แพงกว่าลามิเนตเยอะไหม?
A: แพงกว่าเล็กน้อย แต่ประหยัดในระยะยาวเพราะไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
Q: พื้น SPC เหมาะกับห้องไหนที่สุด?
A: เหมาะกับห้องครัว พื้นที่ซักล้าง หรือพื้นที่ที่เสี่ยงโดนน้ำบ่อย
Q: ถ้ามีสัตว์เลี้ยงควรเลือกพื้นแบบไหนดี?
A: Hybrid และ SPC เหมาะที่สุด เพราะทนรอยขีดข่วนและทำความสะอาดง่าย
Q: อายุการใช้งานของ Hybrid เทียบกับ SPC เป็นอย่างไร?
A: Hybrid ใช้งานได้ยาวนานกว่า (20+ ปี) ขณะที่ SPC ประมาณ 15–20 ปี
ช่องทางติดต่อ DR.FLOOR
✨ พื้นรุ่นใหม่ Elegance Series ✨
✅ รับประกันติดตั้ง 1 ปี
✅ รับประกันสินค้า 20 ปี